คาถาปัทมามณีโชติ

ภาษาบาลีในแง่ไวยากรณ์ฐานเสียงอักขระทุกตัว เมื่อเกิดจากฐานใดของเสียงก็จะไปกระตุ้นอวัยวะส่วนนั้นๆ

การเปล่งเสียงมีพลังสั่นสะเทือน ในแง่โยคะสามารถกระตุ้นจักรหรือศูนย์รวมพลังทั้ง 7 ในตัวเราได้ เช่น คำว่า “โอม” เมื่อเปล่งเสียงสูงและต่ำผู้พูดจะรู้สึกถึงพลังสั่นสะเทือนไปตามจุดสำคัญของร่างกายตั้งแต่ก้นกบจนถึงลำคอและศีรษะ ส่งผลให้อณูน้ำปรับตัวสู่ภาวะที่สมบูรณ์ละเอียดอ่อน 🧘‍♀


📿 คาถา ๖ พยางค์ หมายความว่า ถือมณีในดอกบัวเป็นสรณะ เป็นพื้นฐานแห่งวาสนาและปัญญาทั้งปวง

โอม หมายถึง สามัญลักษณะของคนทุกคน ที่มี รูป นาม และ นิพพานธาตุเหมือนกันหมด มีการแสดงออกทาง กาย วาจา ใจ ได้เหมือนกัน มีความทุกข์ เพราะมีอวิชชา ตัณหา อุปาทาน เหมือนกัน

มณี คือ ตัวสติ ซึ่งเปรียบเหมือนแก้วมณีโชติในนิทานเป็นแก้วสารพัดนึก ที่ช่วยคนให้พ้นจากความยากลำบาก และเปล่งแสงสว่างในความมืด ทำให้มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้

ปัทเม คือ ปัญญา ซึ่งเปรียบเหมือนกับดอกบัวแม้จะเกิดในโคลนตม แต่ถ้าได้อบรม กายใจ ให้มีสติ มีความรู้สึกตัวต่อเนื่องในทุกอิริยาบถแล้วก็จะเกิดญานปัญญา พาตนให้พ้นจากโคลนตมขึ้นสู่ผิวน้ำ กลายเป็นดอกบัวที่สวยงาม และ มีกลิ่นหอม

หุม คือ นิพพานธาตุ อันบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสติและญานปัญญา แยกกันไม่ได้

▶ https://www.youtube.com/watch?v=zVty9rD4X-o